เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ iCloud

ปกติแล้วบทความบนบล็อกนี้ผมจะเขียนเอง  แต่วันนี้มาแปลกนิดนึง  เพราะว่ามีผู้อ่านท่านหนึ่งฝากบทความแนะนำ iCloud ให้นำมาลงเว็บ  ผมลองอ่านดูคร่าวๆ แล้วคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่ใช้สินค้าแอปเปิล  ที่ยังไม่ทราบว่า iCloud ที่พูดๆ กันนั้นคืออะไร  และสามารถทำอะไรได้บ้าง  ลองไปอ่านกันดูครับ


icloud

หากพูดถึง iCloud เชื่อว่าหลายๆ ท่านที่ใช้สมาร์ทโฟน คงต้องเคยได้ยินคำนี้มาบ้าง โดยเฉพาะสาวก iPhone หลายท่าน ที่น่าจะรู้จักกันดี ซึ่ง iCloud นั้น เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อย่างมาก แต่กับบางท่านที่ไม่ใช่สาวกผลิตภัณฑ์ของ Apple ก็อาจจะไม่สนใจนัก เพราะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับตนแต่ท่านรู้หรือไม่ ว่าในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตอื่นบางรุ่น เช่น BlackBerry Z 10 บนระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 ก็สามารถเชื่อมต่อกับ iCloud ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจะพาท่านไปรู้จักกับ iCloud กันให้ลึกซึ้งมากขึ้น เผื่อว่าใครที่ยังไม่เคยใช้ จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีอันแสนมีประโยชน์นี้

iCloud คืออะไร?  iCloud คือชุดบริการ Cloud Storage และ Cloud Computing ที่ Apple สร้างขึ้นมาเพื่อให้บริการกับลูกค้าของตน  โดยที่บริการ iCloud จะเป็นตัวกลางในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้  ที่สามารถซิงค์ข้ามไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ที่ผู้ใช้มีอยู่ได้  และยังมีบริการอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ด้วยเช่นกัน  เช่น อีเมล, งานเอกสาร, หรือการตามหาเครื่องหาย


เราลองมาดูกันที่รายละเอียด ว่า iCloud นี้สามารถช่วยอะไรคุณได้บ้าง หน้าที่หลักของ iCloud อย่างที่บอกไปคือช่วยจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้ และสามารถซิงค์ต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติผ่านทางอินเตอร์เนต ยกตัวอย่างเช่น ในมือถือของคุณมีข้อมูลเบอร์โทร และอีเมลของบุคคลต่างๆ ที่คุณติดต่อด้วย และเมื่อคุณเชื่อมต่อข้อมูลนี้ด้วยระบบ iCloud ข้อมูลของบุคคลต่างๆ ในมือถือของคุณนี้ ก็จะถูกนำไปเก็บไว้ใน iCloud และเมื่อวันนึงคุณเกิดลืมมือถือ แล้วอยากติดต่อบุคคลต่างๆ เหล่านั้น คุณก็สามารถทำได้โดยการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบ iCloud ผ่านเว็บ www.iCloud.com คุณก็จะสามารถดึงข้อมูลของบุคคลต่างๆ ที่คุณเคยเชื่อมต่อด้วยระบบ iCloud ไว้ ออกมาใช้งานได้ ซึ่งการซิงค์ข้อมูลนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะ มือถือกับคอมติวเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง tablet และ notebook ส่วนตัวของคุณด้วย ขอเพียงอุปกรณ์ชิ้นนั้นของคุณสามารถเชื่อมต่อกับ iCloud ได้ คุณก็จะสามารถดึงข้อมูลต่างๆ ออกมาใช้งานได้ ทุกที่ ทุกเวลา

และไม่ใช่เฉพาะ ข้อมูล เบอร์โทร และอีเมล เท่านั้น ที่ iCloud สามารถเก็บได้ แต่ iCloud ยังสามารถจัดเก็บ ข้อมูลอื่นๆ  เช่น ข้อมูลในปฏิทิน, ข้อมูลในสมุดเตือนความจำ (Reminders), ข้อมูลในสมุดจด (Notes), ข้อมูลการใช้งานใน Safari ทั้งหมด เช่นประวัติการใช้งานเว็บ, bookmark ต่างๆ , ไฟล์เอกสารจากในบางแอพ, รูปภาพที่มีในเครื่องทั้งหมด (ผ่านทาง Photo Stream) หรือแม้แต่การ เซฟเกม (เฉพาะเกมที่รองรับ) จะเห็นได้ว่า คุณสามารถเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมดไปสู่อุปกรณ์อื่นๆ ของคุณได้อย่างอัตโนมัติ ผ่าน iCloud ซึ่งนั่นจะสร้างความสะดวกสบายให้กับคุณเป็นอย่างมาก ในเวลาที่คุณเกิดลืมอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่ง หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนมือถือ แล้วจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนั้นๆ คุณก็สามารถเรียกใช้งานมันได้ในทันที

เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มสนใจใน iCloud ขึ้นมาบ้างแล้ว และคงเกิดคำถามว่า จะสามารถใช้งานมันได้อย่างไร คำตอบก็คือ การใช้อีเมล และรหัสผ่าน ธรรมดาทั่วไปนั่นเอง โดยอีเมล จะเป็นชื่อบัญชีใช้งานของเรา ซึ่งถ้าหากใครใช้อุปกรณ์ของ Apple อยู่แล้ว อีเมลและรหัสผ่านตัวนี้ก็คือ  Apple ID ของคุณนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมันจะทำการเชื่อมต่อกับ iCloud โดยอัตโนมัติ แต่หากว่าใครไม่ได้ใช้อุปกรณ์ของ Apple แต่อุปกรณ์ของคุณสามารถเชื่อมต่อกับ iCloud ได้ คุณก็เพียงสมัครอีเมลของ Apple ซึ่งจะลงท้ายด้วย @icloud.com, @me.com หรือ @mac.com พร้อมตั้งรหัสผ่าน เท่านี้คุณก็จะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณผ่านทาง iCloud ได้แล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัย ก็มั่นใจได้ เพราะว่าหากคุณตั้งรหัสไว้อย่างแน่นหนา ก็ยากที่จะมีใครมารู้รหัสของคุณได้ และถ้ายิ่งเป็นอีเมลที่คุณไว้ใช้แค่เพื่อเชื่อมต่อกับ iCloud ก็ยิ่งยากที่จะมีไวรัสตัวไหนมาเจาะรหัสและล้วงความลับของคุณได้

ส่วนเรื่องสนนราคานั้น เมื่อคุณสมัครใช้บริการ iCloud ก็จะให้พื้นที่จัดเก็บส่วนตัวของคุณไว้ใช้ฟรี ถึง 5GB โดยไม่คิดค่าสมัครแต่อย่างใด แต่หากว่าคุณต้องการพื้นที่มากกว่านั้น คุณก็สามารถซื้อพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มเติมได้  ซึ่งจะมีอัตราค่าใช้จ่ายดังนี้

  • $20 ต่อปี สำหรับพื้นที่ 10GB
  • $40 ต่อ ปี สำหรับพื้นที่ 20GB
  • $100 ต่อ ปี สำหรับพื้นที่ 50GB

ทุกท่านคงได้ทราบกันแล้วว่า iCloud นั้น เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับยุคปัจจุบัน คุณจะไม่ต้องหัวเสียกับการลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน แล้วจำเบอร์โทรใครไม่ได้ คุณจะไม่ต้องเสียเวลาย้ายรูปลงคอมพิวเตอร์ของคุณ และคุณสามารถจดโน้ตผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพ์ และนำไปดูที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และไม่ต้องนั่งบันทึกข้อมูลเบอร์โทรใหม่ทุกครั้งที่ซื้อโทรศัพท์ใหม่ iCloud คือระบบที่ตอบโจทย์เหล่านั้น และจะช่วยให้ชีวิตของคุณ มีความสะดวกสบายขึ้นอย่างมากแน่นอน

บทความโดยคุณ Sirirat Valee

Posted by jirayu

WordPress Developer ที่พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง วันไหนไม่ทำงานอยู่บ้านว่างๆ ก็นั่งเลี้ยงแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *